อย. ลดเอกสาร ผูก Certificate เน้นใช้เทคโนโลยีตรวจสอบการนำเข้า
18 สิงหาคม 2566

อย. นำนโยบาย Speed &Safety เน้นความรวดเร็ว นำเทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแบบมืออาชีพแต่ยังคงดูแลความปลอดภัยของผู้บริโภค ให้ได้รับผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพมาตรฐาน

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า อย. มุ่งเน้นนโยบายอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการนำเข้าผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องมือแพทย์ด้วยความรวดเร็วโดยเปิดช่องทางการให้บริการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การยื่นขออนุญาตผ่านระบบ e-Submission การใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียวออกสินค้า ณ ด่านอาหารและยา ซึ่งช่วยลดระยะเวลาในการติดต่อนำเข้า แต่ขณะเดียวกัน อย. ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สุขภาพก่อนถึงมือผู้บริโภค โดยมีมาตรการกำกับดูแลกระบวนการนำเข้าให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาทิ การนำผลิตภัณฑ์อาหารเข้ามาเพื่อจำหน่าย ผู้นำเข้าทุกรายมีหน้าที่ต้องแสดงเอกสารหรือใบรับรองมาตรฐานระบบการผลิตอาหารฉบับจริงตามมาตรฐานที่เทียบเท่าหรือไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 420 หากเป็นสำเนาต้องผ่านการรับรองโดยหน่วยงานที่ออกใบรับรองนั้นหรือสถานฑูต รวมทั้ง อย. ยังมีการสุ่มผลิตภัณฑ์ส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพมาตรฐานด้วย

สำหรับในปี 2566 อย. ได้มีการเฝ้าระวังส่งตรวจผลิตภัณฑ์อาหารนำเข้า จำนวน 559 รายการ ผ่านมาตรฐานจำนวน 549 ราย คิดเป็นร้อยละ 98.21 ตกมาตรฐานจำนวน 10 รายการ คิดเป็นร้อยละ 1.79

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวในตอนท้ายว่า อย. พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการนำเข้าดำเนินธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยปัจจุบันผู้ประกอบการสามารถนำใบรับรองมาผูกเข้ากับเลขสารบบอาหารที่นำเข้าได้ โดยไม่ต้องนำใบรับรอง (Certificate) ดังกล่าว ไปแสดงที่ด่านอาหารและยา นอกจากนี้ อย. ยังอยู่ในระหว่างการเร่งรัดพัฒนาระบบตรวจสอบลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเอกสารที่ยื่นผ่านระบบดิจิทัล เพื่อลดภาระขั้นตอนการนำใบรับรองมาแสดง ณ ด่านอาหารและยาทุกครั้งที่มีการนำเข้า ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์กองด่านอาหารและยา https://logistics.fda.moph.go.th/ หรือ LineOfficial @import.fda